สารจากประธานกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร | Raimon Land

เรียน ท่านผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2564 ทั่วโลกประสบกับวิกฤตโลกจากการระบาดใหญ่ของ COVID-19 โดยประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างมากโดยเฉพาะกับการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอนตลอดทั้งปี โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของการระบาดใหญ่ เราเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงไม่กี่รายที่ไม่หยุดพัฒนาโครงการ ไรมอน แลนด์ได้ปรับตัวให้เข้ากับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และได้เสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ส์ชั้นนำในประเทศไทย โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยคาดว่าจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากการผ่อนคลายกฎระเบียบด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาอีกครั้ง

เราเชื่อว่าที่ใดมีวิกฤต ที่นั่นย่อมมีโอกาสเสมอ ตลอดทั้งปีเราได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีศักยภาพในตลาด และด้วยเหตุนี้ เราสามารถจำหน่ายห้องชุดในโครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม ทั้งหมดให้กับลูกค้าของเราได้ในปี 2564 แม้ว่าจะมีผลกระทบด้านลบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้นห้องชุดที่มีอยู่ของ เดอะ ริเวอร์, เดอะ ดิโพลแมท 39, 185 ราชดำริ, ยูนิกซ์ เซาท์พัทยา และ เดอะ ลอฟท์ อโศก ก็สามารถจำหน่ายได้ทั้งหมดแล้วเช่นกันในปี 2564 นับเป็นการตอกย้ำแรงผลักดันของเราในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง โดยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึงเดือนธันวาคม 2564 ปริมาณห้องชุดคงเหลือในโครงการที่เสร็จสมบูรณ์แล้วลดลงไปถึง 96.2% คิดเป็นยูนิตมากกว่า 100 ยูนิต มีมูลค่ารวมกว่า 2,200 ล้านบาท ในสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย ในตอนนี้เรากำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ และ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ อย่างต่อเนื่องร่วมกับ บริษัท โตเกียว ทาเทโมโนะ เอเชีย พีทีอี จำกัด ซึ่งเป็นหุ้นส่วนและเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น การก่อสร้างโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ 79% ณ สิ้นปี 2564 และมีกำหนดแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565 ในขณะที่โครงการ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ มีความคืบหน้าในการก่อสร้างโครงการ 32% โดยตั้งเป้าที่จะโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2566 โดย ณ สิ้นปี 2564 เราได้ขายจำนวนห้องชุดซึ่งคิดเป็นมูลค่าครึ่งหนึ่งของโครงการ ดิ เอสเทลล์ และ จำนวนห้องชุดซึ่งคิดเป็นมูลค่า 70% ของโครงการ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ โดยมูลค่าโครงการร่วมทุนทั้งสองโครงการมีมูลค่ารวม 9,600 ล้านบาท สำหรับโครงการ วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ที่ร่วมมือกับ บริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย (ชื่ออย่างเป็นทางการ เอ็มอีเอ คอมเมอร์เชียล โฮลดิ้งส์ จำกัด) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอีกราย โครงการมีความคืบหน้าในการก่อสร้างอยู่ที่ประมาณ 65% และทางบริษัทได้รับจดหมายแสดงเจตจำนงในการเช่าพื้นที่ของโครงการมากกว่า 40% ของพื้นที่เช่า ทางบริษัทคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเช่าพื้นที่มากกว่า 75% ของพื้นที่เช่า ก่อนที่อาคารจะเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2566

เรามีความภูมิใจที่จะแบ่งปันความสำเร็จ และรางวัลมากมายที่ทาง ไรมอน แลนด์ ได้รับ โดยโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างคือ โครงการ เทตต์ สาทร ทเวลฟ์ ได้รับรางวัล " Best Luxury Condominium " จากงาน International Finance Award ปี 2021 และโครงการพัฒนาสำนักงานเกรดเอ วัน ซิตี้ เซ็นเตอร์ ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ สามารถคว้ารางวัล “Office Development of The Year 2021” จาก Real Estate Asia Awards 2021 ให้กับการพัฒนาด้วยนวัตกรรมและตระหนักถึงการพลิกโฉมพื้นที่สำนักงานในย่านศูนย์กลางธุรกิจ อีกทั้งโครงการ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ ยังได้รับรางวัล “Best Luxury Condominium Bangkok 2020” และรางวัล “People’s Choice Award for Project of The Year 2020” จากงาน DOT Property Thailand Awards 2020 อีกด้วย

ในส่วนของการดำเนินงานร่วมกับพันธมิตรของเรานั้น บริษัทได้กระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่มีอยู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และในขณะเดียวที่เริ่มดำเนินการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่ โดยบริษัท ได้จับมือกับ บริษัท แอสคอทท์ อินเตอร์เนชั่นแนล แมนเนจเมนท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสองโครงการใหม่ที่มีวิวแม่น้ำที่งดงาม คือ โครงการ “Somerset Riverside Bangkok” ที่มีจำนวน 52 ยูนิตพิเศษ และตั้งอยู่ที่โครงการ เดอะ ริเวอร์ ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับรางวัลของเรา และ โครงการ “Lyf Riverside Bangkok” ที่มีจำนวน 71 ยูนิต ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญนครติดกับโครงการ เดอะ ริเวอร์ ทั้งสองโครงการนั้นคาดว่าจะสร้างรายได้ภายใต้การบริหารงานโดย แอสคอทท์ โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

การรีแบรนด์ ไรมอน แลนด์ ในปี 2564 แสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันของบริษัทในการปรับทิศทางของบริษัทให้ทันสมัยและ ดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จ รวมพวกเขาเข้ากับกลุ่มเป้าหมายของบริษัท ชุดสีองค์กรใหม่และการออกแบบโลโก้ใหม่ของบริษัทส่งสัญญาณให้ลูกค้าของเรามีวัฒนธรรมใหม่ของความเป็นอิสระ และแรงผลักดันที่สร้างสรรค์และมีพลังซึ่งทำให้ลูกค้าของ ไรมอน แลนด์ มีความกล้าแกร่ง นอกจากนี้ แคมเปญการรีแบรนด์ยังกำหนดค่านิยมหลัก 3 ประการ ได้แก่ Customer Centric, Creative Centric และ Value Centric

สำหรับปี 2565 เรามีความภาคภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัย Branded Residences ในย่านสุขุมวิท ซึ่งมีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครในเร็วๆ นี้ อีกทั้งเราตั้งเป้าที่จะยกระดับโครงการในอนาคตผ่าน แบรนด์ระดับโลกโดยการพัฒนาโครงการลักชัวรี่ส์ Branded Residences and อัลตร้าลักชัวรี่ส์ วิลล่าส์ ซึ่ง ไรมอน แลนด์ ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างตัวเองเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มด้วยการดำเนินกลยุทธ์ด้านสินทรัพย์ และการพัฒนาโครงการในอนาคตในการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดิน และนักลงทุน บริษัทพยายามแสวงหาและพัฒนาโครงการในสถานที่ชั้นนำ อีกทั้งกระชับช่วงเวลาในการเปิดตัวโครงการควบคู่ไปกับการกระจายการลงทุนไปสู่ธุรกิจใหม่อีกด้วย

นอกจากนี้ เรามีความภูมิใจที่จะประกาศเปิดตัวโครงการ Rosewood Residences Kamala ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์แรกในกมลาบนเกาะภูเก็ต มีกำหนดการเปิดในปี 2567 โดยมีเปิดให้เริ่มจองในปี 2565 โครงการนี้จะสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับอัลตร้าลักซัวรี่ส์ในจังหวัดภูเก็ต โดยมอบความพิเศษให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างเต็มที่ พร้อมทิวทัศน์ผืนน้ำสีฟ้าครามของหาดกมลา ทะเลอันดามัน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยพร้อมชีวิตบนเกาะที่สะดวกสบาย

สุดท้ายนี้ เราขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อผู้ถือหุ้น คู่ค้า ลูกค้า และพนักงานทุกคนที่ไว้วางใจและให้การสนับสนุนบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ตลอดหลายปีที่ผ่านมา

กฤษณ์ ณรงค์เดช
ประธานกรรมการ

กรณ์ ณรงค์เดช
ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร